วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นใหญ่

ส่วนผสม - แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย - แป้งมัน 1 ถ้วย - น้ำเปล่า 3 ถ้วย  - น้ำมันพืชสำหรับทาเส้น
วิธีทำ ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดให้เข้ากัน แล้วค่อยๆทยอยเทน้ำสัก 1/ 2 ถ้วย ลงไปทีละน้อย เทไปพร้อมกับใช้มือนวดไปด้วย นวดประมาณ 10 นาที ยิ่งนวดคุณก็จะได้เส้นที่เหนียวนุ่มยิ่งขึ้น นวดจนแป้งเนียนตามภาพตัวอย่างนี้เลยค่ะ
เสร็จแล้วค่อยๆทยอย เทน้ำที่เหลือใส่ลงไป แล้วใช้ ช้อนหรือพายผสมให้เข้ากันดี 

นำลังถึง (ซึ้ง) ตั้งไฟพอน้ำเดือด แล้วลดไฟลงพอให้น้ำยังคงความร้อนเอาไว้ แต่อย่าให้เดือดปูดๆนะคะ นำกระดาษซับชุบน้ำมันพืชเล็กน้อยแล้วนำไปเช็ดที่จานก่อน เพื่อแป้งจะได้ไม่ติดจานเสร็จ แล้วตักแป้งใส่จานที่มีก้นลึกสักเล็กน้อย ตักใส่สัก 1 ทัพพี แล้วปิดฝาลังถึง รอจนแป้งสุก แป้งจะออกสีใสๆ เวลาเปิดฝาลังถึง ระวังหน่อยนะคะ อย่าให้น้ำหยดลงไปบนแผ่นก๋วยเตี๋ยวได้จะเป็นการดีค่ะ
พอแป้งสุกยกจานออกจากลังถึง ใช้แปรงชุบน้ำมันทาให้ทั่วตัวแป้ง แล้วค่อยๆแซะขอบๆโดยรอบซะก่อน ค่อยลอกออกจากจาน แล้วนำไปพักไว้อีกจานนึงอย่าลืมทาน้ำมันที่จานทุกครั้งนะคะ ไม่งั้นเด่วแป้งจะติดกันค่ะ 
แนะนำว่าควรจะใช้จาน 2 ใบ เผื่อจะได้ไม่เสียเวลาที่เรานำแป้งจานนี้ออก อีกจานก็เข้าไปนึ่งต่อได้เลย วางแผ่นก๋วยเตี๋ยวซ้อนกันไว้เป็นชั้นๆแบบนี้ ทำไปเรื่อยๆจนแป้งหมด ทุกชั้นอย่าลืมทาน้ำมันด้วยนะคะ
เสร็จแล้วหั่นเป็นเส้นๆกะเอาเองเลยค่ะว่าอยากจะได้เส้นใหญ่ขนาดไหน เท่านี้เราก็จะได้เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทั้งใหม่และสด ด้วยฝีมือเราเอง ^-^







รีโซลไส้แชมปิญอง/Rissoles aux champignons


ส่วนผสม ตัวแป้ง
น้ำ 1/2 ลิตร
นั้ามันพืช 1 dl
เกลือ 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เก็ลดขนมปัง
ส่วนผสม ไส้เห็ด
เห็ดแชมปิญอง 1 กระป๋อง
เนย 25 กรัม
วิ๊ปครีม 2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ 1ช้อนชา
ชีสเชดด้าขูด
เกลือ,พริกไทย
(เนย 25 กรัม กับ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะสำหรับทอด รีโซล(Rissoles)
วิธีทำ ไส้เห็ด
นำกะทะตั้งไฟกลางใส่เนย ผัดหอมใหญ่จนสุก ใส่เห็ดลงไปผัด  (ถ้าต้องการจะใส่แฮมหรืออย่างลงไปด้วยก็ได้ค่ะ) ใส่วิ๊ปครีม ปรุงรสด้วยเกลือ,พริกไทย พักไว้ให้เย็นก่อน
วิธีทำ ตัวแป้ง
ร่อนแป้ง เตรียมไว้ ตอกไข่ใส่ชามตีพอแตก เกล็ดขนมปังใส่ชามไว้อีก 1 ชาม สำหรับชุบแป้ง
ผสมน้ำกับน้ำมันพืชและ เกลือ ใส่หม้อตั้งไฟจนน้ำเดือด ลดไฟอ่อน เทแป้งใส่ลงไป ใช้พายไม้กวนแป้งไปเรื่อยๆจนแป้งสุก แป้งจะร่อนไม่ติดหม้อ และจะเกาะรวมกันเป็นก้อนเดียวกัน เสร็จแล้วยกออกจากเตาพักไว้ให้เย็น พอเริ่มเย็นแล้วนวดต่ออีกนิดหน่อย เสร็จแล้วโรยนวลคลึงแป้งให้เป็นแผ่น แต่อย่าให้บางมาก เพราะเวลาใส่ไส้แล้วอาจจะแตกได้ค่ะ ใช้พิมท์กลมๆหรือจะใช้ปากแก้วก็ได้ค่ะ กดให้วงกลม แล้วตักไส้ใส่ตรงกลาง ประกบแป้ง จับบีบริมทั้ง 2 ข้างให้ติดกันเอานิ้วแตะน้ำนิดหน่อย จะช่วยให้แป้งติดกันง่ายขึ้น แล้วนำไปชุบไข่ และชุบเกล็ดขนมปัง เมื่อทำจนหมดแล้วคลุมด้วยพาสติกใส นำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ช.ม  ค่อยนำออกมาทอด ทอดทั้ง 2ด้านจนเหลืองสวย น่าทาน ทานคู่กับสลัด เมนูนี้ส่วนมากเด็กๆจะชอบทาน คุณจะดัดแปลงเป็นใส่ไส้ ผักโขมชีสหรืออื่นๆก็ย่อมได้นะคะ





วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ขนมปังป๊อบปี้ / Pain pavot


ส่วนผสม
แป้ง half- white flour 500 กรัม
น้ำอุ่น 300 กรัม
ยีสต์สด 20 กรัม หรือ( ยีสต์ผง 7g )
น้ำมันโอลีฟ 4 ช้อนโต๊ะ(หรือน้ำมันพืชอื่นๆ)
เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
วานิลาผง 2 ช้อนชา
เมล็ดป๊อบปี้ (Poppy Seed)
วิธีืทำ
ร่อนแป้งใส่อ่างผสมเกลือและ วานิลาผง ผสมให้เข้ากัน
ละลายยีสต์ในน้ำอุ่น พักไว้ 5-10 นาที คนให้เข้ากัน
จากนั้น ใส่น้ำมัน ลงไปผสมกันกับน้ำอุ่นที่ละลายยีสต์ไว้
ทำหลุมตรงกลางแป้ง เทน้ำที่ผสมยีสต์และน้ำมันลงไป ตามด้วยเมล็ดป๊อบปี้ สัก 2 ช้อนชา นวดเข้ากัน พอแป้งเริ่มเกาะตัวกันเป็นก้อน เสร็จแล้วโรยนวล บนโต๊ะนิดหน่อย นำแป้งออกมานวดต่อบนโต๊ะ การนวดก็ไม่ต้องออกแรงมากมาย แค่พับมุมแป้งมาประกบที่ตรงกลาง นวดแบบนี้จนแป้งเนียน ก็พักแป้งได้ใช้พลาสติกใสคลุมอ่าง แลัวใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ คลุมทับอีกที แล้วนำไปหาทีวางไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือจะวางไว้ในเตาอบก็ได้ค่ะ(แต่ไม่ต้องเปิดไฟนะคะ)พักไว้สัก 1:30 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมงเอาแบบให้แป้งเค้าขึ้นเต็มที่เลยค่ะ เมื่อโดได้ทีแล้ว ก็ขึ้นรูปขนมปัง เสร็จแล้วใช้แปรงชุบน้ำทาหน้าโด แล้วใช้มีดคมๆชุบน้ำก่อนแล้วกรีดซะหน่อย โรยด้วยป๊อบปี้ แล้วใช้ผ้าแห้งสะอาดๆคลุมไว้ พักโดอีกครั้งจนขึ้นเป็น 2 เท่าวอร์มเตาอบ 230 c°
พอเตาอบร้อนได้ทีแล้วนำขนมปังเข้าเตาอบแล้วใช้กระบอกฉีดน้ำ ฉีดน้ำเข้าไปในเตาอบสัก2-3ครั้ง อบประมาณ 10 นาที แล้วลดไฟลงมาเหลือ 200  อบต่ออีก 10-15นาที  เป็นอันเสร็จเรียบร้อย



วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เกี้ยวซ่า / Gyoza



ส่วนผสมแป้งเกี้ยว
แป้งเค้ก 100 กรัม - แป้งขนมปัง 100 กรัม (หรือจะใช้แป้งอเนกประสงค์ 200กรัมก็ได้ค่ะ) - น้ำร้อน 100 ml
เกลือ 1/4 ช้อนชา - น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ(น้ำมันจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่น้ำมันจะช่วยให้แป้งนุ่มขึ้นค่ะ)
ส่วนผสม ไส้
หมูบดหรือไก่บด 200 กรัม - กระเทียมสับ 4 กลีบ - ขิงสับ 1ช้อนชา - แป้งมัน 1 ช้อนชา - น้ำมันงา 6 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว(kikkoman)4 ช้อนโต๊ะ - ผักกระหล่ำหั่นเป็นชิ้นเล็ก หรือ ต้นกระเทียม,หรืออื่นๆ - เกลือ-พริกไทย
วิธีทำไส้
นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ภาชนะ ขยำให้เข้ากันดี ชิมรส หมักไว้ก่อน คลุมด้วยพลาสติก พักไว้ในตู้เย็น เพื่อให้ซอสและเนื้อหมูเข้ากันดี ระหว่างนั้นก็ลงมือทำแป้งเกี้ยวกันเลยค่ะ
วิธีทำแป้งเกี้ยว
ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดผสมรวมกันทำหลุมตรงกลาง ละลายเกลือกับน้ำร้อนใส่น้ำมันพืชลงไปผสมกันแลัวค่อยๆเทลงไปตรงกลางหลุม จะใช้พาย หรือช้อนคลุกเคล้าให้แป้งจับกันเป็นก้อนๆ จากนั้นใช้มือนวดแป้งให้จับตัวเป็นก้อนเดียวกัน แล้วหุ้มด้วยพลาสติกพักไว้ในอุณหภูมิห้อง 30 นาทีจากนั้นโรยนวลบนโต๊ะ มานวดอีกครั้งนวดจนแป้งเหนียวและเนียนดี แล้วคลึงให้เป็นแผ่นไม่บางเกินไปและก็อย่าให้หนาเกินไปด้วยนะคะ หมั่นโรยนวลหน่อยนะคะ ไม่งั้นเวลานวดแป้งจะติดโต๊ะได้ค่ะ  นวดจนได้ตามที่เราต้องการ เสร็จแล้วใช้แก้วน้ำ หรือภาชนะทรงกลมอย่างอื่น กดตัวแป้งให้เป็นแผ่นกลม วางเรียงไว้ก่อน  (แต่ถ้าไม่อยากนวดให้ลำบาก มีอีกวิธี คือคลึงแป้งให้เป็นท่อนยาว แล้วใช้มีดตัดก้อนๆละประมาณ 10 กรัม แล้วคลึงให้เป็นแผ่นกลม แบบนี้ก็ง่ายดีค่ะ)แต่ที่มลพับแป้งเก็บไว้ในตู้เย็นก่อนเพราะยังไม่ได้ใช้ทันทีค่ะ จากนั้นแผ่แผ่นแป้งเกี้ยวใช้ช้อนกาแฟตักไส้ใส่ตรงกลางแล้วพับขอบแป้งหรือประกบติดกันเฉยๆก็ได้ค่ะ ก่อนปิดเอานิ้วชุบน้ำลูบตามขอบแป้งเกี้ยวเพื่อแป้งจะได้ติดกันดีขึ้นนะคะ
วิธีทอด
นำกระทะตั้งไฟกลางใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย นำเกี้ยวลงไปทอดแค่พอเหลืองสวยทั้ง 2 ด้านจากนั้นเทน้ำลงไปประมาณครึ่งของตัวเกี้ยว ปิดฝารอจนน้ำแห้ง เหมือนตอนเราทอดตอนแรกเลยละ เปิดฝาออกมากลิ่น โอ้แม่เจ้า หอมน้ำมันงามากมาย เสร็จแล้ว ทานกํบน้ำจิ้มที่บ้านเราเรียกว่าฉิ๊กโฉ่ หรือจะปรุงเอง ก็ผสมน้ำส้มญี่ปุ่นกับซีอิ้วคิกโคแมน ใส่ขิงสับลงไปหน่อย อืม....^-^




วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เค้กวาเลนไทน์ครีมชีส


ส่วนผสม สปันจ์เค้ก
1.แป้งเค้ก 170 กรัม
2.น้ำตาลทรายละเอียด 180 กรัม
3. ไข่ไก่ 300 กรัม
4.นมผง 25 กรัม
5.แป้งข้าวโพด (Maizena)25 กรัม
6.น้ำ 50 กรัม
7.ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
8. เนยละลาย 120 กรัม
9.โอวาเล็ต 15 กรัม (ถ้ามี)
มลไม่ได้ใส่ค่ะ
สีและกลิ่น ผลไม้ตามใจชอบ
ส่วนผสม ครีมชีส
ครีมชีส 395 กรัม - วิ๊บปิ้งครีม 20 cl - น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม(หรือมากกว่านั้น) - ราสเบอร์รี่คั้นเอาแต่น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ หรือจะใช้กลิ่นอื่นๆเช่น สตอเบอร์รี่ ผสมกับ สีแดงผสมอาหารก็ได้ค่ะ จะกี่หยดก็แล้วแต่ว่าเราอยากได้สีเข้มขนาดไหน
วิธีทำ สปันจ์เค้ก สูตรนี้ง่ายมาก ก้อนใหญ่ค่ะ ถ้าจะทำก้อนเล็กก็ทำครึ่งสูตรเอานะคะ
ละลายเนยในไมโครเวฟ พักไว้ เตรียมพิมท์ 20 Cm ที่รองด้วยกระดาษไข วอร์มเตาอบไฟล่าง 180 c°
นำอ่างมาร่อนแป้งเค้กและแป้งข้าวโพดรวมกัน(ขอเน้นนิดนึงว่าแป้งข้าวโพดชนิดเบาMaizena นะคะ) ตามด้วย,นมผง,ผงฟู รวมกัน เทน้ำตาลใส่ลงไปใช้พายผสมให้เข้ากัน  ส่วนอ่างอีกใบ ตอกไข่อ่าง ตามด้วยน้ำและกลิ่น (ยกเว้นเนยละลายเก็บไว้ใส่ที่หลัง)
นำทั้ง 2 ส่วนมาเทรวมกันในอ่างเดียวแล้วตีด้วยความเร็วสูงสุดจนกว่าจะฟูเป็นครีมข้นตีประมาณ 5-8 นาที เสร็จแล้วลดความเร็วต่ำสุด ตีต่ออีกประมาณ 30 วินาที เพื่อระบายฟองอากาศออก คราวนี้แล้วเทเนยละลายลงไปผสม ตะล่อมด้วยพายยางให้เข้ากันดี ระวังอย่าให้เนยนอนก้นอ่างเชียวนะ แล้วแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นำอีกส่วนที่1 เทใส่พิมท์เกลี่ยให้เรียบรอไว้ แล้วนำส่วนที่ 2 มาผสมสีและกลิ่นผลไม้ ตะล่อมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยเทใส่ตรงกลางของส่วนแรก แล้วใช้ช้อนโต๊ะจิ้มลงไปตรงกลาง แล้วก็หมุนช้อนเลื่อนไป ทำลายแบบ มาร์เบิ้ลเค้กประมาณนั้นเลยค่ะ เสร็จแล้วกระแทกพิมท์สักครั้งก่อนแล้วนำเข้าเตาอบชั้นกลาง อบประมาณ 30-40 นาที อบจนสุกแล้วก่อนออกจากเตาเปิดไฟทั้งบน-ล่างอบต่ออีก 5 นาที
เมื่ออบครบ30 นาทีแล้วลองเอานิ้วแตะผิวหน้าของเค้กดู จะมีความรู้สึกแน่นและเป็นสปริงและรอยนิ้วจะถูกดันกลับมา แสดงว่าเค้กสุกแล้ว นำออกมากระแทกเบาๆนิดนึง แล้วนำออกจากพิมท์วางพักไว้บนตะแกรง รอให้เย็น
วิธีทำ ครีมชีส
ตีวิ๊ปครีมด้วยความเร็วสูงให้ขึ้นฟู พอฟูได้ทีแล้ว ลดความเร็วต่ำสุด แล้วค่อยๆผสมน้ำตาลไอซิ่ง ชิมรสดูก่อนว่าความหวานพอใจรึยัง ถ้ายังก็เพิ่มน้ำลงไปอีกได้ค่ะ หรือถ้าเหลวไปก็เพิ่มน้ำตาลลงไปอีกได้ เสร็จ
พักไว้ นำอ่างอีกใบมาครีมชีสจนเนียนนุ่ม แล้วใช้พายยางผสมทั้ง 2 ครีมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยใส่สีผสมอาหารจะเป็นสีอะไรก็ตามใจคุณเลยค่ะ
เสร็จตัดเค้กเป็น 3 ชั้นใส่ครีมและผลไม้แต่ละชั้น ตกแต่งตามความชอบของแต่ละคน อร่อยแล้วอย่าลืมมาบอกกันบ้างนะคะ คนลงสูตรจะได้มีกำลังใจนิดนึงค่ะ (ช่วงนี้ยิ่งแอบขี้เกียจอยู่ด้วย )







วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พายลูกพีช / Peach Tart


 ส่วนผสม
1.แป้งพายชั้น
2.ลูกพีชในน้ำเชื่อม 1 กระป๋อง
ครีมอัลมอนด์
1.เนยนิ่ม 60 กรัม
2.น้ำตาลทราย 60 กรัม
3.อัลมอนด์ผง 60 กรัม
4.วานิลาเอ็กสตร้า 1 ช้อนชา
5.ไข่ไก่ 1 ฟอง
6.แป้งข้าวโพดชนิดเบา 1ช้อนโต๊ะ
วิธีทำครีมอัลมอนด์
ตีเนยกับน้ำตาลด้วยตระกร้อมือให้เข้ากันดีใส่วานิลาและไข่ใส่ลงไป คนให้เข้าแล้วค่อยๆทยอยใส่ผงอัลมอนด์ผสมให้เข้ากันตามด้วยแป้งข้าวโพดผสมให้เข้ากันดี เสร็จแล้วคลุมด้วยพลาสติกนำไปพักไว้ในตู้เย็น 30 นาที จากนั้นเราก็มาเตรียมหั่นลูกพีชและเตรียมแป้งพาย จัดการตามภาพตัวอย่างเลยนะคะ จัดวางบนถาดที่รองด้วยกระดาษไข เสร็จเรียบร้อยก็เตรียมวอร์มเตาอบไฟบน-ล่าง 180 c° จนสุกเหลืองสวยก็ประมาณ 15-20 นาที ถ้าอยากให้เงาสวย ก็เอาน้ำเชื่อมของลูกพีชเข้าเวฟให้ร้อนแล้วใส่เจลาตินผงลงไปผสมแล้วนำมาทาหน้าพายตอนอบสุกแล้วยังร้อนๆอยู่นะคะ









วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สลัดพริกยักษ์


ส่วนผสม
พริกเหลือง,แดง,ส้ม ยกเว้นเขียว
กระเทียมแกะเปลือก
น้ำมันโอลีฟ(หรือน้ำมันสลัด)
เกลือ
(ปริมาณกะเอาเลยนะคะ)
วิธีทำ ง่ายมาก มากค่ะ
ล้างพริกเตรียมเข้าเตาย่าง ย่างแค่พอเห็นว่าผิวเริ่มพองแตก ส่วนกระเทียม ก็ห่อใส่ฟรอย์อลูมิเนียม เข้าไปย่างพร้อมกันกับพริกยักษ์ ย่างจนได้ทีแล้วก็นำออกมาพักไว้ให้อุ่นๆสักหน่อยแล้วค่อยลอกเอาเปลือกพริกออก แล้วหั่นเป็นเส้นๆ ส่วนกระเทียมก็หั่นเป็นแว่นๆ ผสมกัน ปรุงรสด้วยน้ำมันโอลีฟ,เกลือ ชิมรส แบบที่คุณชอบ แต่ถ้าอยากให้มีรสเผ็ดนิดๆ ก็ย่างพริกขี้หนูเม็ดใหญ่สัก2-3เม็ด ผสมลงไปเท่านี้ก็เรียบร้อย

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน /Young Coconut Chiffon Cake

ส่วนผสมตัวเค้ก(ขนาดพิมท์ 16Cm)
ไข่ไก่ 3 ฟองใหญ่(ถ้าฟองเล็กใช้ 4 ฟอง)
น้ำตาลทราย 80 กรัม(แบ่งเป็น 2 ส่วน)
แป้งเค้ก 50 กรัม - น้ำมันพืช 50 กรัม
ผงฟู 1/4 ช้อนชา - น้ำมะพร้าวอ่อน 40 กรัม -
ส่วนผสมครีมมะพร้าวอ่อน
มะพร้าวอ่อน 1 กระป๋อง(ประมาณ 440 กรัม) -
กะทิ 250 ml - น้ำมะพร้าว 150 กรัม -
เกลือ 1/4 ช้อนชา - น้ำตาลทราย 50 กรัม
แป้งสลิ่ม (หรือที่เราเรียกว่าแป้งถั่วเขียว) 30 กรัม
วิธีทำครีมมะพร้าวอ่อน
หั่นมะพร้าวอ่อนเป็นเส้นๆ ผสมทุกอย่างลงในหม้อเข้าด้วยกัน ยกเว้น เนื้อมะพร้าวอ่อนใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี แล้วยกขึ้นตั้งเตา ใช้ไฟอ่อน คนตลอดเวลานะคะ ไม่งั้นจะติดก้นหม้อ คนจนเหนียวเป็นครีม ยกลงใส่เนื้อมะพร้าวลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นก่อน ค่อยนำไปราดหน้าเค้ก หรือจะสอดไส้ตรงกลางเค้ก ก็จัดไปตามใจคนทำเลยค่ะ
ส่วนผสม ของวิ๊ปครีม 250 กรัม + ไอซิ่ง 50กรัม - ส่วนมลจะกะเอาเองว่าจะใช้ครีมมากน้อยขนาดไหน ตีวิ๊ปครีมด้วยความเร็วจนขึ้นฟู เสร็จแล้วก็ร่อนไอซิ่งผสมลงไปคนให้เข้ากัน ใส่มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณๆจะชอบหวานมากน้อยขนาด อุ้ย... เม้ามากเกินไปหน่อย ลงมือเลยดีกว่าเน๊อะ ^-^
วิธีทำ ชิฟฟ่อน
1. เป็นส่วนของไข่แดง,น้ำมะพร้าว,น้ำมันพืช ผสมด้วยตระกร้อมือ ให้ส่วนผสมเข้ากันเบาๆมือ ไม่ให้เหนียว คนส่วนของเหลวให้เข้ากันก่อน 
2. ส่วนของแห้ง ผสมแป้งน้ำตาล.เกลือ,ผงฟู ผสมเข้าด้วยกัน การผสมขั้นตอนนี้ น้ำตาลทรายคนให้เข้ากับแป้ง ช่วยให้แป้งไม่เหนียวขณะผสมกับของเหลว เนื่องน้ำตาลทรายเข้าไปแทรกกลาง ระหว่างเม็ดแป้งความเหนียวของโปรตีนในแป้งจึงลดลง 
3. เติมส่วน 2 ลงในส่วน1 คนเข้ากันพักไว้
4. เตรียมส่วนผสมของไข่ขาว ไข่ขาวจะต้องไม่มีส่วนของไข่แดงปนลงไปเลย หากมีส่วนของไข่แดงปนลงไป การตีจะไม่ขึ้นฟู ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ หรือ น้ำมะนาว ด้วยความเร็วสม่ำเสมอ จนขึ้นฟูจากนั้นค่อยเติมน้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยจนหมด จะได้ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนๆ ขั้นตอนนี้ไม่ต้อง ถ้าตีจนไข่ขาวตั้งยอดแข็ง เพราะจะทำให้เค้กเนื้อหยาบ และแห้ง เสร็จแล้ว ก็ทำการผสมส่วนของไข่แดงกับไข่ขาว เข้าด้วยกัน โดย แบ่งไข่ขาว 3-4 ส่วน ตักใส่ลงในอ่างของส่วนผสมไข่แดง คนตะล่อมเบาๆ เมื่อไข่ขาวเข้ากันดี ก็ค่อยเติมไข่ขาวที่เหลือลงไปทีละส่วน ทำเช่นนี้จนหมด สิ่งสำคัญขั้นตอนนี้ ต้องผสมเบามือและรวดเร็ว 
การอบเค้กชิฟฟอน (อันนี้อ่านมาจากหนังสือค่ะ แต่อยากแบ่งปันค่ะ)
ก่อนผสมเราต้องเตรียมพิมพ์รองด้วยกระดาษไข ทาน้ำมันพืชหรือไขมันบางๆ และวอร์มเตาอบไว้รอก่อนลงมือผสม เมื่อผสมเสร็จควรเข้าอบทันที หากเข้าอบช้าไข่ขาวจะยุบตัว ทำให้เค้กที่ได้ปริมาตรเล็กลง อุณหภูมิที่ใช้อบ 180 °c ไฟล่างอย่างเดียว อบประมาณ 25 นาที หลังจากอบถึง 25 นาทีแล้วให้เปิดทั้งไฟล่าง-ไฟบน (ควรนำ กระดาษไขหรือ ฟรอยด์อลูมิเนียม วางปิดบนหน้าเค้ก เพื่อไม่ให้หน้าเค้กเกรียมเกินไปการทดสอบความสุกของชิฟฟอนเค้ก ทดสอบโดยการจิ้มลงไปตรงกลางหาไม่ส่วนผสมติดไม้ แสดงว่าเค้กสุก นำออกมาจากเตา กระแทกพิมท์เบาๆสัก1ครั้ง คว่ำบนตะแกรงทันทีเพื่อให้ผิวหน้าเค้กเรียบสม่ำเสมอ พักไว้ให้เย็น 
ข้อควรระวังในการทำ ชิฟฟอนเค้ก
การแยกไข่แดงไข่ขาว ต้องไม่ให้ส่วนของไข่แดงปนลงในไข่ขาว อ่างผสมต้องแห้งสนิท และต้องไม่มีคราบไขมันหรือน้ำมันติดที่อ่างผสม ต้องตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงและสม่ำเสมอ
ช่วงผสมทั้ง2ส่วนเข้าด้วยกันจะต้องผสมจนเข้ากันดีเนื้อเนียน เมื่อผสมเสร็จต้องอบทันที
เมื่ออบสุขต้องเอาออกจากเตาทันทีเช่นกัน มิฉะนั้นจะยุบ เค้กที่อบสุกแล้วต้องวางให้เย็นสนิทก่อน